วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ที่เที่ยวพัทยา



ที่เที่ยวสุดฮิตในเมืองพัทยา

**********


1. มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)

    มิโมซ่า (Mimosa) ที่เที่ยวพัทยาแห่งใหม่สไตล์เมืองนอก จำลองมาจาก COLMAR หมู่บ้านในเมือง Alsace ของฝรั่งเศส เป็นเมืองเก่าเล็กๆ สีสันสวยงาม ยกมาไว้เป็นที่เที่ยวพัทยาซะเลย  มิโมซ่า พัทยา เป็นสถานที่ท่องที่ยว ภายใต้แนวคิด The City of Love หรือเมืองแห่งความรัก ซึ่งก็คือการให้นักท่องเที่ยวได้เห็นมุมมองต่างๆ ของความรักผ่านทางศิลปะการตกแต่งภายในที่แห่งนี้นั่นเอง  มิโมซ่า พัทยา ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี หาง่ายมากๆ ค่าเข้าชม Mimosa 150 บาท เด็ก 75 บาท ใครอยากมาเดินเล่น ช้อปปิ้ง ถ่ายรูป ทานอาหารในร้านสุดชิคก็มาที่นี่ได้เลย

พิกัด GPS มิโมซ่า พัทยา : 12.838394, 100.912814

รายละเอียดเพิ่มเติมสถานที่ท่องเที่ยวพัทยา มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)






2.ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา (Pattaya Floating Market)

      ตลาดน้ำ 4 ภาค เสน่ห์พัทยาแห่งใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมและเป็นศูนย์รวมของ กิจกรรม ความหลากหลายเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ตลาดน้ำ 4 ภาค รวบรวม ของดี 4 ภาค มาไว้ที่นี่ ผสมผสาน กันอย่างลงตัว เสน่ห์ แห่งใหม่ในเมืองพัทยา แหล่ง รวม สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน และแหล่งท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรม มารวมไว้จุดเดียวกัน ถือเป็น แหล่ง ช็อปปิ้งใหม่ ที่มีจุดขายในตัวเองและไม่เหมือนใคร ภายใน ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา แบ่งเป็น ส่วนจุดเข้าชมย่อย อาทิ เช่น ทุ่งทานตะวัน พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก อีกทั้งยังเป็น แหล่ง ช็อปปิ้ง สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านไทย ทั้งหมด 114 ร้านค้า รวมไปถึงการแสดงกิจกรรมวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรม ไทย หรือจะเป็นการล่องเรือพายชมทัศนียภาพตลาดน้ำ ย้อนรำลึกประวัติศาสตร์การกสิกรรมไทย ที่แปลงเกษตร สาธิต และสมุนไพรไทย เป็นการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้ รู้จักความเป็นมา ในอดีตของการค้าขายทางสายน้ำ รวมไปถึงการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของทั้ง 4 ภาค(live & learn) ไม่ว่าจะเป็น การทำนาปลูกข้าว ,การทอผ้าไหม,การทำขนมไทยโบราณ หรือการ ศึกษาถึงภูมิทัศน์ ของผู้ที่อยู่อาศัย และทำการ ค้าขายบนสายน้ำ

พิกัด GPS ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา : 12.86799, 100.904521

รายละเอียดเพิ่มเติมสถานที่ท่องเที่ยวพัทยา ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา (Pattaya Floating Market)










นำมาจาก : http://www.chillpainai.com/scoop/782/ที่เที่ยวพัทยา-15-ที่เที่ยวสุดฮิตในเมืองพัทยา/





ท่องเที่ยวเขาใหญ่



ท่องเที่ยวเขาใหญ่ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กัน

*********


   1. สวนสนุก Life Park




   สวนสนุก Life Park ตั้งอยู่ใน Greenery Resort ที่สุดของทุกประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดแบบเอ็กซ์ตรีม ท่ามกลางธรรมชาติของเขาใหญ่ ที่นี่เป็นศูนย์รวมเครื่องเล่นนานาชนิดที่มีให้เลือกเล่นมากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งเครื่องเล่นก็สั่งตรงมาจากต่างประเทศมากกว่า 30 รายการ เช่น สไลด์เดอร์ยักษ์บนลานหญ้าเทียม, GX-Swing, X-max , Harnessed Zorb Spin ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งอันทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นปีนผาจำลอง, Mix Extremes ฐานสำหรับฝึกกำลังแขนและขา อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเท่านั้นนะ เพราะยังมีเมืองคาวบอยให้ได้เดินชิล ๆ ชมบรรยากาศหรือจะโพสท่าถ่ายรูปก็ได้ไม่ว่ากัน, สวนสนุก Inflatable land สำหรับเด็ก ๆ และเมืองสำหรับมินิคาร์ ฯลฯ

          ที่ตั้ง : 188/1 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-17.30 น. วันศุกร์ เวลา 09.30-17.30 และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.30 น.
          โทรศัพท์ : 0 4429 7224-5

          เว็บไซต์ : www.greeneryresort.com และ เฟซบุ๊ก LIFE PARK






2.สวนซ่อนศิลป์






สวนซ่อนศิลป์ หรือ Secret Art Garden ไม่ใช่เป็นสวนดอกไม้หรือสวนป่าธรรมดา ๆ ทั่วไปนะจ๊ะ เพราะภายในมีงานศิลปะซุกซ่อนอยู่ทุกอณูพื้นที่ของสวน ความลับที่อยู่ในสวนแห่งนี้เสมือนเป็นสมบัติล้ำค่าที่เก็บซุกซ่อนปิดไว้มานาน แต่วันนี้ได้เปิดกุญแจเพื่อให้คุณได้เข้าไปค้นหาความงามของธรรมชาติ ความงามของศิลปะที่ซ่อนอยู่ภายในสวนซ่อนศิลป์แห่งนี้ มั่นใจว่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับครอบครัวที่จะมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุขและมีประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกัน

          ที่ตั้ง : หมู่ 9 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 4499 3939-40

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก สวนซ่อนศิลป์ Secret Art Garden

นำมาจาก : http://travel.kapook.com/view70014.html


ที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น



ที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

     *ภูเขาฟูจิ








     ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในโลก มีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเกียวและโยโกฮาม่าในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วิธีที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิที่ง่ายที่สุด คือ นั่งชมจากรถไฟสายโทไกโดที่วิ่งระหว่างเมืองโตเกียวและโอซาก้า ถ้าคุณนั่งชินกันเซ็นจากโตเกียวที่มุ่งหน้าไปยังนาโงย่า เกียวโต และโอซาก้า ช่วงที่จะได้เห็นภูเขาฟูจิ คือ ช่วงสถานีชิน-ฟูจิ หรือประมาณ 40-45 นาที หลังจากออกจากโตเกียว ซึ่งจะมองเห็นได้ทางด้านขวามือของรถไฟ แต่สำหรับผู้ที่อยากชมภูเขาฟูจิอย่างเต็มอิ่ม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามขอเชิญที่ ทะเลสาบทั้งห้า (Fuji Five Lake or Fujigoko) หรือที่ ฮะโกะเนะ ซึ่งเป็นรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนและเป็นหนึ่งใน อุทยานแห่งชาติ Fuji-Hakone-Izu


               นอกจากนี้ รอบ ๆ ภูเขาฟูจิเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม และเป็น อุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะอิซุ มีทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจิโกะ ไซโกะ และมีออนเซนหลายแห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โอชิโนะโกะ ฯลฯ นับได้ว่า ภูเขาฟูจิ มีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชื่อภูเขาปรากฏอยู่ในบทกลอนญี่ปุ่นหรือภาพพิมพ์ญี่ปุ่น และทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ชื่อสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนตั้งชื่อว่า ฟูจิ เรียกว่าภูเขาฟูจินี้เป็นหัวใจของญี่ปุ่นก็ว่าได้



*ช้อปปิ้งย่านสุดฮิตที่ย่านชินจูกุ ฮาราจูกุ โอไดบะ






        เมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ การช้อปปิ้ง ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีแหล่งช้อปที่หลายหลาย แต่ที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ย่านชินจุกุ (Shinjuku) แหล่งท่องเที่ยวทันสมัยฝั่งตะวันตกของโตเกียว นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งและสถานบันเทิงยามค่ำคืนยอดนิยมที่มีชื่อเสียง โดยยามกลางวันสามารถแวะชมสวนสาธารณะชินจุกุเกียวเอ็นที่เงียบสงบ, ย่านชิบุยะ (Shibuya) เป็นศูนย์กลางแฟชั่นและวัฒนธรรมสมัยใหม่ของวัยรุ่น ใกล้กับ ศาลเจ้าเมจิ ที่เงียบสงบ ติดต่อกันเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมและสวรรค์ของคนรุ่นใหม่ คือ ย่านฮาราจูกุ และ ย่านโอไดบะ ที่สร้างขึ้นจากการถมทะเลในอ่าวโตเกียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ เพราะที่นี่มีทั้งแหล่งบันเทิงขนาดใหญ่ ชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเรนโบว์ ทาวน์ ที่เหล่าคู่รักวัยรุ่นนิยมขึ้นชิงช้าชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม



*ฮอกไกโด



  ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ท ที่ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่น ๆ เพราะมีทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม

               โดยมี เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด ซึ่งในซัปโปโรมี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ ยังมีหอนาฬิกาอันเก่าแก่ และที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้งย่านร้านค้าซุซุกิโนะ ซึ่งเป็นศูนย์การค้า และแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้

               เมืองฮะโกะดะเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของฮอกไกโด ในยามเช้าสามารถเที่ยวตลาดสดขายอาหารทะเลสด ๆ ที่มีให้ชิม ยามสายเที่ยวชมโบสถ์ และป้อมปราการโบราณในเมือง ยามเย็นนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนเขาฮะโกะดะเตะ ชมทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงามได้รอบทิศ ด้านเมืองอะซะฮิกะวะ (Asahikawa) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนจากเมืองซัปโปโร และจากเมืองอะซะฮิกะวะไปทางตะวันออกจะมี อุทยานแห่งชาติไดเซะทสุซัง ซึ่งมี บ่อน้ำแร่โซอุนเกียว ให้เพลิดเพลินในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี


               นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีธรรมชาติอันสวยงามที่เป็นชายฝั่งทะเลใกล้ เมืองอะบะชิริ (Abashiri) มีธารน้ำแข็งให้ชมในฤดูหนาว และ คาบสมุทรชิเระโตะโกะ (Shiretoko) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วย อีกทั้งทะเลสาบอะคัง ทะเลสาบมาชูและ ทะเลสาบคุชิโระ และทางตะวันตกของฮอกไกโดมี เมืองโอะตะรุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองค้าขาย ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 รอบ ๆ เมืองจะมีคลองโอะตะรุ เป็นโบราณสถาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยบุกเบิก มีถนนร้านซูชิที่สดที่สุดในโลกให้ลองลิ้มชิมรส




นำมาจาก : http://travel.kapook.com/view62960.html



วันปีใหม่ 



     วันปีใหม่ที่โรงเรียนตราดสรรเสริญได้จัดขึ้น มีนักเรียนให้คว่ทร้วมมือเป็นอย่างดี มีการแสดงต่างๆมากมาย ทั้งการเต้น แสดงละคร จับของขวัญอีกมากมาย ได้ทานอาหารกับเพื่อนๆในห้อง มีความสุขมากๆเลยที่เดียว เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข สนุกสนาน 





................HAPPY....................



ที่เที่ยวเชียงใหม่

ที่เที่ยวเชียงใหม่รับหน้าหนาวชมวิวสวย





1. ดอยปุย-เชียงใหม่







        ไปเชียงใหม่ คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงดอยสุเทพ แต่ถ้าขับรถมาอีกหน่อยคุณจะเจอสถานที่ท่องเที่ยวดอย “บ้านม้งดอยปุย” ทางที่มาค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแต่ก็มีรถแดงเข้าไปเหมือนเราเข้าป่า ทางที่เข้ามาจะเป็นถนนแคบ ๆ รถสวนกันลำบาก เป็นดินแดง และเมื่อพ้นป่าออกมาก็เจอชุมชนชาวเขา ที่นี่จะมีของที่ชาวเขานำมาขายกันมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นของฝาก ของกิน พอเดินขึ้นไปถึงด้านบน ถ้าใครจะเข้าไปชมสวนดอกไม้ น้ำตก จะมีเก็บค่าผ่านทาง 20 บาทต่อคน  ภายในมีมุมถ่ายรูปเพียบ งต้นกัญชา ต้นฝิ่นที่ออกดอกหลายสีสวยงาม และไม้ประดับนานาชนิด มุมน้ำตก แล้วถ้าใครอยากแปลงร่างไปเป็นชาวเขาเขาก็มีบริการเช่าชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย


    หมู่บ้านม้งดอยปุยจะผ่านพระตำหนักภูพิง ขึ้นไปเจอแยกขวาที่สามแยกไปหมู่บ้านม้งดอยปุย เลี้ยวไปขุนช่างเคี่ยน เลยทางเข้าบ้านมงดอยปุยไปประมาณ 5 ก.ม ทางขึ้นเขาจะค่อนข้างชันนิดนึงเป็นถนนทางเดียว ถ้าไม่ถนัดหรือไม่ชำนาญทางก็สามารถใช้รถโดยสารประจำทาง ตั้งแต่ทางขึ้นดอยก็ได้ รถจะมีจอดอยู่หน้า วัดพระธาตุ และตรงพระตำหนักภูพิง





2.ดอยม่อนแจ่ม - เชียงใหม่






         ม่อนแจ่ม ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่ใครต่างก็อยากจะไปสักครั้ง เป็นที่ท่องเที่ยวที่ “แจ่ม” สมคำร่ำลือจริงๆ ด้วยอากาศที่เย็นสบายบวกกับทัศนียภาพที่งดงามและวิวทิวทัศน์เป็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน มองไปไกลโน่น…สุดลูกหูลูกตา แบบ 360 องศาเลยทีเดียว  อีกด้านก็จะเป็นไร่ปลูกพืชต่างๆ เป็นขั้นบันได ของโครงการหลวง บนยอดม่อนแจ่มมีพื้นที่ไม่มากนักสามารถเดินชมได้จนทั่วได้อย่างสบาย
   และสำหรับวิวที่นั่งไม้ไผ่ที่เป็นหลังๆ ที่เห็นกันในรูปก็คือส่วนหนึ่งของร้านอาหารในนั้นเอง เรื่องอาหารข้างบนนี้อุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว และสำหรับใครที่คิดยังอยากชื่นชมความสวยงามของที่นี่ก็สามารถมาสอบถามที่พักไว้บริการ หรือถ้าใครอยากกางเต้นท์ก็มีลานให้กางได้เช่นกัน
   “ม่อนแจ่ม”เป็นส่วนหนึ่งของ“ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงแค่ 40 นาที ขับรถมาทางไปแม่ริม จากนั้นก็เลี้วขึ้นไปทางสะเมิง ผ่านปางช้างขึ้นไป  ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง สามารถขับรถขึ้นไปข้างบนม่อนเจ่มได้เลยภายในมีที่จอดรถ



นำมาจาก : http://www.chillpainai.com/scoop/3227/ที่เที่ยวเชียงใหม่-10-ที่เที่ยวเชียงใหม่รับหน้าหนาวชมวิวสวย/